ปัจจุบันประเทศของเราประสบปัญหา เรื่อง วิกฤติผู้นำกันอยู่ในทุกระดับ เพราะผู้นํายุคใหม่ต้องเตรียมความพร้อมสําหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น การทํางานเป็นทีมก็เป็นสิ่งสําคัญ และผู้ที่จะทำงานเป็นทีมได้ดีต้องมีภาวะผู้นำในตนเอง ต้องเน้นการสร้างกระบวนการถ่ายทอดข่าวสาร ข้อมูล และความคิด เพื่อทําให้เกิดความสัมพันธ์อันดีสําหรับตัวบุคคลแล้ว ยังเกิดความสัมพันธ์อันดีในกลุ่มและองค์กร ส่งผลถึงการปรับเปลี่ยน ความคิดและพฤติกรรมใหม่ของบุคคลในการทํางานร่วมกัน อีกทั้งยังลดปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น นํามาซึ่งการปฏิบัติ ภารกิจตอบสนองนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล นําไปสู่การปฏิบัติจริงได้เป็นผลสําเร็จ เยาวชนเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่ายิ่งของประเทศที่จะเติบโตและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต การสร้างให้คนมีภาวะความเป็นผู้นำ (Leadership) นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้องค์กรพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง (Change) ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรุนแรงมากในขณะนี้ ดังนั้นการเสริมสร้างให้เด็กและเยาวชนมีภาวะผู้นำ ควรเริ่มตั้งแต่การสอนให้เด็กมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อการเป็นผู้นำ โดยผู้นำและหัวหน้ามีความแตกต่างกัน นิยาม “ผู้นำ” ในด้านต่างๆ มีมากมาย หลากหลายทฤษฎี และแต่ละคนนั้นก็มีรูปแบบของความเป็นผู้นำที่แตกต่างกัน ดังนั้น การจะบอกว่า ผู้นำแบบใดดีกว่ากันนั้น คงไม่สามารถบอกได้ รวมทั้งยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ภาวะความเป็นผู้นำก็อาจแตกต่างกันไปด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างภาวะความเป็นผู้นำในตัวเราเอง เราสามารถที่จะเป็นผู้นำได้ดีแค่ไหน มีความน่าเชื่อถือจากบุคคลอื่นๆ มากน้อยอย่างไร สามารถบอกได้หรือไม่ว่าเราเป็นผู้นำ “ของแท้” เพราะความเป็นผู้นำนั้นอยู่ภายในตัวเรา แล้วเราแสดงออกมาให้ผู้อื่นได้รับรู้ ไม่ใช่ตำแหน่ง หรือสิ่งที่เราบอก ดังนั้นการพัฒนาภาวะความเป็นผู้นำในตัวเองให้แข็งแกร่ง ย่อมเป็นประโยชน์ต่อเรามากที่สุด